Proxy ในระบบ Microservices Architecture
Microservices Architecture คืออะไร?
Microservices Architecture คือแนวทางการออกแบบระบบซอฟต์แวร์โดยแบ่งระบบใหญ่ออกเป็นบริการเล็ก ๆ หลายตัวที่ทำงานแยกกันได้อย่างอิสระ แต่สามารถสื่อสารและทำงานร่วมกันผ่าน API หรือเครือข่ายได้
ระบบแบบนี้ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ลดความซับซ้อนของโค้ด และง่ายต่อการพัฒนาและดูแลรักษา
Proxy มีบทบาทอย่างไรใน Microservices Architecture?
ในระบบ Microservices แต่ละบริการจะต้องสื่อสารกันและกับภายนอก Proxy จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายด้าน เช่น
1.API Gateway Proxy
- ทำหน้าที่เป็นตัวกลางรับคำขอจากผู้ใช้งานแล้วกระจายไปยังบริการที่เหมาะสม
- ช่วยจัดการเรื่อง Authentication, Rate Limiting, Load Balancing และ Logging
- ช่วยลดภาระของแต่ละบริการโดยไม่ต้องจัดการเรื่องเหล่านี้เอง
2.Service Proxy (Sidecar Proxy)
- ทำงานคู่กับแต่ละบริการในระบบ (เช่น Envoy, Istio)
- จัดการเรื่องการสื่อสารระหว่างบริการ เช่น Routing, Retry, Circuit Breaking, TLS Encryption
- ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความเสถียรของระบบ
3.Reverse Proxy
- ช่วยซ่อนรายละเอียดของโครงสร้างภายใน และเพิ่มความปลอดภัย
- รับคำขอจากภายนอกระบบไปยัง Microservices ภายใน
- เพิ่มความยืดหยุ่น สามารถอัปเดตหรือเปลี่ยนบริการใดบริการหนึ่งโดยไม่กระทบระบบทั้งหมด
- เพิ่มความปลอดภัย ด้วยการจัดการการพิสูจน์ตัวตนและการเข้ารหัสข้อมูล
- ปรับแต่งการสื่อสาร ระหว่างบริการให้มีประสิทธิภาพ เช่น การโหลดบาลานซ์ และจัดการความผิดพลาด
- จัดการปริมาณคำขอ ได้ง่ายด้วย Rate Limiting และ Circuit Breaking
- ลดความซับซ้อนของบริการ เพราะแต่ละบริการไม่ต้องดูแลเรื่องเครือข่ายโดยตรง
สรุป
Proxy เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ระบบ Microservices Architecture ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และยืดหยุ่น โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางจัดการเรื่องเครือข่ายและการสื่อสารระหว่างบริการต่าง ๆ
การเลือกและตั้งค่า Proxy ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับนักพัฒนาและผู้ดูแลระบบในยุคนี้