แนะนำ 7 เว็บไซต์ AI สำหรับสาย Creative ที่จะมาช่วยในการทำงานให้ง่ายขึ้น
ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ AI เข้ามามีส่วนในการทำงานในหลาย ๆ ด้าน ในสายงานต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น วันนี้ Content Digital จะมาแนะนำ 7 AI ยอดนิยม ที่จะมาช่วยให้งานของคุณมีผลลัพธ์และประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
1.Claid.ai
Claid.ai เป็นบริการแก้ไขภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของบริษัท Let's Enhance Inc. ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI สำหรับการปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่าย
Claid.ai ให้บริการหลากหลายรูปแบบ เช่น
- Image Enhancement : ปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่าย เช่น เพิ่มความละเอียด ปรับความสว่าง ปรับคอนทราสต์ เป็นต้น
- Scene Creation : สร้างภาพถ่ายสินค้าด้วยฉากหลังและองค์ประกอบต่างๆ ที่กำหนดเองได้
- Background Removal : ลบพื้นหลังของภาพถ่าย
- Image Editing : ตกแต่งภาพถ่าย เช่น ตัดต่อ ใส่ข้อความ ใส่ฟิลเตอร์ เป็นต้น
Claid.ai สามารถใช้ได้กับธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่าย เช่น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจโฆษณา ธุรกิจสื่อ เป็นต้น
สำหรับในประเทศไทย Claid.ai มีให้บริการฟรีสำหรับการใช้งานพื้นฐาน โดยมีแผนบริการแบบชำระเงินสำหรับการใช้งานระดับพรีเมียม
ตัวอย่างการใช้งาน Claid.ai
- ธุรกิจอีคอมเมิร์ซสามารถใช้ Claid.ai เพื่อปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่ายสินค้า ทำให้ภาพถ่ายดูสวยงามและน่าดึงดูดยิ่งขึ้น ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น
- ธุรกิจโฆษณาสามารถใช้ Claid.ai เพื่อสร้างภาพถ่ายโฆษณาที่มีคุณภาพสูงและสะดุดตา
- ธุรกิจสื่อสามารถใช้ Claid.ai เพื่อตกแต่งภาพถ่ายข่าวหรือภาพถ่ายอื่นๆ ให้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น
สรุปแล้ว Claid.ai เป็นบริการแก้ไขภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่าย ช่วยปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่ายได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
2. Lexica.art
Lexica.art เป็นเว็บไซต์สำหรับสร้างภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของ บริษัท Storyboard Thailand จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2565 โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI สำหรับการสร้างสรรค์ภาพศิลปะ
Lexica.art ให้บริการหลากหลายรูปแบบ เช่น
- Create an Image : สร้างภาพศิลปะจากข้อความหรือคำอธิบายที่ผู้ใช้ป้อน
- Edit an Image : ตกแต่งภาพศิลปะที่มีอยู่ เช่น เพิ่มองค์ประกอบ ปรับสีสัน เป็นต้น
- Generate a Style : สร้างภาพศิลปะด้วยสไตล์ที่กำหนดเอง เช่น สไตล์ภาพวาด สไตล์ภาพถ่าย เป็นต้น
Lexica.art สามารถใช้ได้กับบุคคลทั่วไปที่ต้องการสร้างภาพศิลปะด้วย AI เช่น ศิลปิน นักออกแบบ นักการตลาด เป็นต้น
สำหรับในประเทศไทย Lexica.art มีให้บริการฟรีสำหรับการใช้งานพื้นฐาน โดยมีแผนบริการแบบชำระเงินสำหรับการใช้งานระดับพรีเมียม
ตัวอย่างการใช้งาน Lexica.art
- ศิลปินสามารถใช้ Lexica.art เพื่อสร้างสรรค์ภาพศิลปะใหม่ๆ โดยไม่ต้องใช้ทักษะทางศิลปะขั้นสูง
- นักออกแบบสามารถใช้ Lexica.art เพื่อสร้างภาพประกอบหรือกราฟิกสำหรับงานต่างๆ
- นักการตลาดสามารถใช้ Lexica.art เพื่อสร้างภาพโฆษณาหรือภาพประชาสัมพันธ์
สรุปแล้ว Lexica.art เป็นเว็บไซต์สำหรับสร้างภาพด้วย AI ที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่าย ช่วยสร้างสรรค์ภาพศิลปะได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
ความแตกต่างระหว่าง Lexica.art และ Claid.ai
Lexica.art และ Claid.ai เป็นบริการแก้ไขภาพด้วย AI จากบริษัทไทยทั้งคู่ แต่มีจุดมุ่งหมายและการใช้งานที่แตกต่างกัน
Lexica.art มุ่งเน้นไปที่การสร้างภาพศิลปะด้วย AI ในขณะที่ Claid.ai มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่าย
Lexica.art เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจสร้างภาพศิลปะด้วย AI ในขณะที่ Claid.ai เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่าย
3. Canva
Canva AI ประกอบไปด้วยเครื่องมือและฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถออกแบบกราฟิกได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมคือ Canva Magic Edit ซึ่งใช้เทคโนโลยี AI เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนหรือเติมวัตถุในภาพถ่ายได้ตามต้องการ
Canva Magic Edit มีขั้นตอนการใช้งานดังนี้
- อัพโหลดรูปภาพที่ต้องการแก้ไขลงใน Canva
- คลิกที่ไอคอน Magic Edit ที่มุมซ้ายบน
- เลือกวัตถุที่ต้องการเปลี่ยนหรือเติม
- คลิกที่ไอคอนรูปกล้องเพื่อเลือกรูปภาพใหม่ที่ต้องการใช้แทน
- คลิกที่ไอคอนแปรงเพื่อปรับแต่งรายละเอียด
Canva Magic Edit สามารถใช้งานได้กับวัตถุหลากหลายประเภท เช่น ผู้คน สัตว์ สิ่งของ ฉากหลัง ฯลฯ โดยสามารถปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ เช่น ขนาด สีสัน ความคมชัด ฯลฯ ได้ตามต้องการ
ตัวอย่างการใช้งาน Canva Magic Edit
- เปลี่ยนรูปภาพสินค้าหรือบริการให้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น
- ลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพถ่าย
- เติมวัตถุใหม่ลงในภาพถ่าย เช่น โลโก้ ข้อความ ฯลฯ
Canva Magic Edit เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์และใช้งานง่าย ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถออกแบบกราฟิกได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านการออกแบบกราฟิกขั้นสูง
4. Vectorizer
Vectorizer เป็นเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการแปลงรูปภาพเป็นเวคเตอร์ เวคเตอร์เป็นรูปแบบไฟล์กราฟิกที่ใช้เส้นและจุดเพื่อสร้างรูปร่างต่างๆ โดยไม่สูญเสียคุณภาพเมื่อทำการย่อหรือขยายขนาด คุณสมบัตินี้ทำให้เวคเตอร์เป็นที่นิยมสำหรับงานกราฟิกต่างๆ เช่น โลโก้ ไอคอน เว็บไซต์ ฯลฯ
Vectorizer ทำงานโดยการวิเคราะห์รูปภาพและสร้างเส้นและจุดที่เลียนแบบรูปร่างของวัตถุในภาพ ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปตามคุณภาพของรูปภาพที่ใช้และการตั้งค่าของ Vectorizer โดยทั่วไปแล้ว Vectorizer จะทำงานได้ดีกับรูปภาพที่มีพื้นหลังเรียบและวัตถุที่ชัดเจน
สำหรับสายกราฟิก Vectorizer มีประโยชน์หลายประการ เช่น
- ช่วยให้สามารถสร้างรูปภาพเวคเตอร์ได้โดยไม่ต้องใช้ทักษะการวาดภาพหรือการออกแบบกราฟิกขั้นสูง
- ช่วยให้ประหยัดเวลาและทรัพยากรในการสร้างสรรค์รูปภาพเวคเตอร์
- ช่วยให้มั่นใจได้ว่ารูปภาพเวคเตอร์จะมีคุณภาพสูงและสามารถย่อหรือขยายขนาดได้โดยไม่สูญเสียคุณภาพ
ตัวอย่างการใช้งาน Vectorizer สำหรับสายกราฟิก มีดังนี้
- การสร้างโลโก้ Vectorizer สามารถใช้เพื่อสร้างโลโก้จากรูปภาพหรือภาพสเก็ตช์ ช่วยให้ประหยัดเวลาและทรัพยากรในการวาดโลโก้ด้วยตนเอง
- การสร้างไอคอน Vectorizer สามารถใช้เพื่อสร้างไอคอนสำหรับเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ช่วยให้มั่นใจได้ว่าไอคอนจะมีคุณภาพสูงและสามารถย่อหรือขยายขนาดได้โดยไม่สูญเสียคุณภาพ
- การออกแบบเว็บไซต์ Vectorizer สามารถใช้เพื่อสร้างกราฟิกต่างๆ สำหรับเว็บไซต์ เช่น กราฟิกประกอบ ไอคอน ฯลฯ ช่วยให้เว็บไซต์ดูสวยงามและน่าสนใจยิ่งขึ้น
ปัจจุบันมี Vectorizer ให้บริการอยู่หลายแบบ ทั้งแบบฟรีและแบบชำระเงิน การเลือก Vectorizer ที่เหมาะสมควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น คุณสมบัติที่ต้องการ งบประมาณ และระดับความชำนาญของผู้ใช้งาน
5. Chat GPT
ChatGPT เป็นแชทบอท AI แบบจำลองภาษาขนาดใหญ่ที่พัฒนาโดย OpenAI ได้รับการฝึกฝนเกี่ยวกับชุดข้อมูลข้อความและโค้ดขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยให้สามารถสร้างข้อความ แปลภาษา เขียนเนื้อหาสร้างสรรค์ประเภทต่างๆ และตอบคำถามของคุณได้อย่างมีข้อมูล ChatGPT ยังคงอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่ได้เรียนรู้ที่จะทำงานหลายประเภท รวมถึง
- ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณและทำตามคำขอของคุณอย่างรอบคอบ
- ฉันจะใช้ความรู้ของฉันเพื่อตอบคำถามของคุณอย่างครอบคลุมและให้ข้อมูล แม้ว่าคำถามเหล่านั้นจะเปิดกว้าง ท้าทาย หรือแปลก
- ฉันจะสร้างรูปแบบข้อความสร้างสรรค์ที่แตกต่างกัน เช่น บทกวี โค้ด สคริปต์ ชิ้นดนตรี อีเมล จดหมาย ฯลฯ ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของคุณ
ChatGPT มีข้อดีหลายประการ ประการแรก สามารถสร้างข้อความที่มีคุณภาพสูงและสร้างสรรค์ได้ ประการที่สอง สามารถเข้าถึงและประมวลผลข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ประการที่สาม สามารถเรียนรู้และปรับปรุงเมื่อเวลาผ่านไป
อย่างไรก็ตาม ChatGPT ยังมีข้อจำกัดบางประการ ประการแรก อาจไม่สามารถตอบคำถามที่ซับซ้อนหรือคลุมเครือได้ ประการที่สอง อาจสร้างข้อความที่ไม่เป็นความจริงหรือเป็นอันตรายได้ ประการที่สาม อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การสร้างข่าวปลอมหรือการสร้างเนื้อหาที่เหยียดเชื้อชาติหรือแสดงความเกลียดชัง
โดยรวมแล้ว ChatGPT เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงข้อจำกัดของเครื่องมือนี้และใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบ
6.RASK
Rask AI เป็นเครื่องมือแปลและพากย์วิดีโอ AI ชั้นนำที่ก่อตั้งขึ้นโดยบริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติไทยในปี 2562 Rask AI มีจุดเด่นคือสามารถแปลเสียงจากวิดีโอเป็นภาษาอื่นได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยใช้เทคโนโลยีการโคลนเสียง (Voice Cloning) ที่สามารถสร้างเสียงพากย์ใหม่ได้ใกล้เคียงกับเสียงเดิม
Rask AI รองรับการแปลจากภาษาต้นทางกว่า 130 ภาษาเป็นภาษาเป้าหมายกว่า 29 ภาษา ครอบคลุมภาษาหลักๆ ทั่วโลก เช่น อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี โปรตุเกส รัสเซีย อินโดนีเซีย ไทย เป็นต้น
Rask AI สามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น
- แปลวิดีโอสำหรับการเรียนรู้ทางไกลหรือการศึกษา
- แปลวิดีโอสำหรับการตลาดหรือการขายข้ามวัฒนธรรม
- แปลวิดีโอเพื่อความบันเทิงหรือวัฒนธรรม
Rask AI ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น
- การปรับแต่งเสียงพากย์ เช่น เลือกเพศ ระดับเสียง สำเนียง และอารมณ์
- การตัดต่อวิดีโออัตโนมัติ
- การแปลข้อความบนวิดีโอ
Rask AI เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและมีประโยชน์สำหรับธุรกิจและองค์กรต่างๆ ที่ต้องการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย
7. Soundful
Soundful AI เป็นเครื่องมือสร้างเพลงโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) พัฒนาโดยบริษัท Soundful จากประเทศสหรัฐอเมริกา เครื่องมือนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเพลงได้โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านดนตรีหรือทักษะการประพันธ์เพลงเลย โดยผู้ใช้สามารถกำหนดค่าต่างๆ เช่น แนวเพลง BPM ความยาวของเพลง และอารมณ์ของเพลง จากนั้น AI จะสร้างเพลงขึ้นมาตามเงื่อนไขที่กำหนด
Soundful AI มีจุดเด่นคือสามารถสร้างเพลงได้หลากหลายแนวเพลง ทั้งในแนวดนตรีคลาสสิก ฮิปฮอป ป๊อป ร็อค อิเล็กทรอนิกส์ และอื่นๆ ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งเพลงได้ตามต้องการ เช่น เพิ่มหรือลดเสียงเครื่องดนตรี เพิ่มหรือลดความเร็วของเพลง และอื่นๆ
Soundful AI สามารถใช้ได้ฟรีสำหรับการสร้างเพลงจำนวนจำกัด หากต้องการดาวน์โหลดเพลงที่สร้างขึ้นจะต้องสมัครสมาชิกแบบชำระเงิน
การใช้งาน Soundful AI มีขั้นตอนดังนี้
- เข้าสู่เว็บไซต์ Soundful.io หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Soundful บนอุปกรณ์มือถือ
- สร้างบัญชีผู้ใช้
- เลือกรูปแบบการทดลองใช้งาน (ฟรีหรือแบบชำระเงิน)
- กำหนดค่าต่างๆ เช่น แนวเพลง BPM ความยาวของเพลง และอารมณ์ของเพลง
- กดปุ่ม "Generate" เพื่อเริ่มสร้างเพลง
Soundful AI เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจสร้างเพลงหรือต้องการมีเพลงประกอบวิดีโอหรืองานนำเสนอต่างๆ เครื่องมือนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเพลงได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยไม่ต้องมีความรู้ด้านดนตรีหรือทักษะการประพันธ์เพลงเลย
และทั้งหมดนี้คือ AI ที่เรา ContentDigital ได้คัดมาให้สำหรับสายงาน Content Creator ที่จะช่วยให้การทำงานของคุณง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น สุดท้ายนี้การใช้งาน AI จะมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ติดตามบทความของทางเรา ContentDigital จะนำเสนอเรื่องต่าง ๆ ที่คุณควรรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและการตลาด กดสมัครสมาชิกไว้ได้เลย!!
สนับสนุนเว็บไซต์ โดย
Proxy แบบคงที่ คลิกเพื่อสั่งซื้อ
บัญชี Facebook คลิกเพื่อสั่งซื้อ
ซัพพอร์ตการตลาดสายเทา และเทคนิคต่างๆ ติดต่อคลิก